วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

ประวัติวง NO MORE TEAR

จากวง Imaginary lie เปลี่ยนมาเป็น NO MORE TEAR คิดว่าหลายๆคนคงชอบแนวเพลงของวงนี้นะครับ



สมาชิกวง NO MORE TEAR
1. นางสาว ไปรยา มาลาศรี (ฟักแฟง) ตำแหน่ง VOCAL
2. นาย เชาว์วรรธน์ อุปนันท์ (ชาย) ตำแหน่ง GUITAR
3. นาย ชิตกร ปัญญาปัตโชโต (เม้ง) ตำแหน่ง GUITAR
4. นาย สุทธิพล บัวอนนท์ (ไอซ์) ตำแหน่ง DRUM
5. นาย จุติ รุ่งเรื่องระยับกุล (เต้) ตำแหน่ง BASS

No More Tear (โน มอร์ เทีย) วงดนตรี น้องใหม่จาก Genie Records ที่สร้างชื่อมาจากแวดวง Underground ด้วยสไตล์ดนตรีที่โดดเด่น และ Front Girl อย่าง “ฟักแฟง” Teen Idol ที่กำลังมาแรง และนอกจากนี้ งานของ No More Tear ยังได้ อ๊อฟ พูลศักดิ์ จตุระบุล Producer ที่ผ่านงาน Produce ให้กับ Big Ass, Bodyslam, และ Palmy มาแล้ว มาดูแลให้อย่างใกล้ชิด

ดนตรีของ NO MORE TEAR –Modern Rock
ในขณะที่กระแสดนตรี Rock แบบ Screamo (แบบที่มีการว๊าก) กำลังได้รับความนิยม NO MORE TEAR กลับใช้แนวทางดนตรี POP เป็นหลักโดยใช้การผสมผสาน ดนตรี Rock และเพิ่มสีสันด้วยจังหวะ Dance ลงไปได้อย่างลงตัว No More Tear ถือได้ว่าเป็น หนึ่งในตัวจริงของคนดนตรีเลยทีเดียว เพราะว่างานในอัลบั้มนี้ พวกเค้าทำเองทุกส่วน โดยมี อ๊อฟ BIG ASS คอยดูแลภาพรวมให้

Album – Yellow Light
สีเหลือง (Yellow) เป็นสีแหงความสดใสและ สนุกสนาน เหมือนกับ งานของ No More Tear ชุดนี้ที่เต็มไปด้วยสีสัน และความสนุกสนานของวัยรุ่น

ข้อมูลเพลง ของ No More Tear (เขียนโดย ฟักแฟง)
1. ฉันเป็นดีเจให้เธอ – เป็นเพลงที่สื่อถึงความเป็นโนมอร์เทียรืได้อย่างชัดเจนที่สุด ในแง่ของดนตรี ความพิเศษคือเป็นเพลงแรก ที่เราทำ Music Video ซึ่งพวกเราก็สนุกกับการถ่ายทำมาก ๆ เพราะดนตรีมีความสนุก ชวนให้ขยับตัว รวมทั้งเนื้อเพลงก็มีเนื้อหา สนุกไปตามดนตรี คืออยากชวนให้ทุกคนออกมาสนุกสนาน มีความความสุขร่วมกัน อย่ามัวแต่นั่งอุดอู้ เล่นคอมอยู่แต่ในห้อง หรือนั่งซึมเศร้า ออกมาร้องเล่นเต้นรำด้วยกัน อีกนัยนึงก็สื่อถึงคนที่มีความฝันหรือคิดอยากทำอะไร แต่ยังเก็บมันเอาไว้ กล้าคิด กล้าฝัน แต่ยังไม่กล้าทำ ไม่กล้าปล่อยมันออกมาก็อยากให้เพลงนี้ ช่วยเป็นแรงผลักดันให้ได้แสดงสิ่งดีดีในตัวเองออกมาค่ะ

2. หัวใจหมดแรง – ถือเป็นซิงเกิ้ลแรกที่ทำให้คนได้รู้จักโนมอร์เทียร์ ที่เราเลือกเพลงนี้เป็นซิ้งเกิ้ลแรกเพราะดนตรีเป็นจังหวะกำลังดี ไม่ช้าหรือไม่เร็วจนเกินไป เนื้อหาก็เข้าใจง่าย น่าจะตรงใจหลายๆคนที่กำลังหัวใจหมดแรงเพราะความรัก

3. ล่องหน – เป็นเพลงที่มีจังหวะชวนล่องหนจริงๆ ดนตรีจะลอยๆ ฟังสบายแต่ก็ยังแฝงความเป็นร๊อคอยู่ เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเหมือนกับเราปลง และ เข้าใจยอมรับการอยู่เหมือนไม่มีตัวตน แต่ก็แอบประชดอยู่ลึกๆนะ

4. ระหว่างรอ – พูดถึงการรอคอย ว่ามันมีผลยังไงกับเราบ้าง ตอนที่แต่งเนื้อเพลงเพลงนี้ แต่งด้วยความเศร้าจริงๆ

5. No Way – เพลงนี้มีความรู้สึกดีดีอยู่ในเพลงเยอะแยะ คือเราฟังแล้วได้ทั้งความเพลิดเพลิน ความสบาย แถมยังสนุกสนานอีกด้วย เนื้อหาก็ตรงไปตรงมา ใช้ภาษาแบบเดียวกับเวลาคนเราพูดคุยกัน ทำให้นึกถึงว่า สุดท้าย เราทุกคนก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครได้ คนเรารักกัน จริงๆแล้วมองที่อะไร

6. Somewhere – เป็นเพลงที่พี่ ชาย (ชาย กีตาร์ ริทึ่ม) ทำทั้งหมด เสร็จแล้วก็ส่งมาให้ฟักแฟงฟัง เพื่อจะแต่งเมโลดี้และเนื้อเพลงแต่พอได้ฟังแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย เพลงนี้ควรจะเป็นเพลงบรรเลงมากกว่า เพราะฟังแล้วรู้สึก เพลิน เหมือนเราล่องลอยอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อ Somewhere ของเพลงนี้

7. ไม่กอดเธอไว้ – เพลงไม่กอดเธอไว้มีความหมายกับวงเรามาก จริงๆก็สำคัญหมดทุกเพลง แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่เ เราทำกันมา ตั้งแต่ยังอยู่วงการใต้ดิน หลายคนที่ได้ติดตามมาอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้ว

8. รักเคยดีกว่านี้ – เป็นเพลงจังหวะช้าๆ เนื้อหามีความเศร้า แต่ก็ไม่ได้เศร้าถึงขีดสุด จะมีอารมณ์ของความสับสน ความเหงาแฝงอยู่ด้วย เป็นเพลงที่ชวนให้นึกถึงความรักในวันเก่าๆที่เคยดีกว่าในตอนนี้

9. Yellow Light – เพลงนี้ฟังแล้วจะนึกถึงความรักในแง่ของ ความรักที่ให้กำลังใจ ความรักที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น ไม่ได้จำกัดว่าเป็นความรักในฐานะไหน จะนึกถึงคนที่เค้าคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ เปรียบกับคนๆนั้นเป็นเหมือนแสงสว่าง เพลงนี้เป็นอีกความหมายของชื่ออัลบัมด้วย

10. ใครจะทนก็ทน – เพลงนี้ฟังแล้วรู้สึกหายเศร้าได้เลยทีเดียว ยิ่งอกหักจากความรักหละก็หายเศร้าเป็นปลิดทิ้ง เพราะดนตรีก็มีความสนุก ฟังแล้วอยากกระเถิบออกมาเต้นตาม ส่วนเนื้อหาก็ง่ายๆ เหมือนเรากำลังพูดอยู่กับ คนที่ทำให้เราเสียใจอยู่จริงๆ

11. มากมาย – เพลงมากมายเป็นเพลงที่สร้างกำลังใจได้มากเลยทีเดียว เราอยากจะบอกให้เพื่อนๆเข้มแข็ง ไม่อยากให้สนใจสิ่งรอบตัวมากไป จนเสียความเป็นตัวเอง ดนตรีก็มีความหนักปนความสนุกสนานเช่นเคย ลองนึกภาพเวลาได้ร้องเพลงนี้ร่วมกัน มันมีความสุขมากๆเลย

BIOGRAPHY
ปี 2549 เม้ง(guitar) และ ฟักแฟง(vocal) ได้ฟอร์มวงขึ้นมา โดยในช่วงแรกๆจะเล่นดนตรี cover เพลง Rock สากล และทดลอง ทำเพลงของตัวเองขึ้นมา แล้วออกตระเวนเล่นตามงาน Underground ต่างๆ จนกระทั่งสมาชิกบางส่วน ออกจากวงไป เม้ง(guitar)ก็ได้เริ่มหาสมาชิกใหม่โดยทันที ซึ่งก็ได้ ไอซ์ (drum) มาเป็นกระดูกสันหลังของวง และได้เริ่มฟอร์มวงขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อว่า Imaginary lie (อิมเมอจินนรี่ ลาย) วง Imaginary lie เดินหน้าทำงานเพลงของตัวเองอย่างจริงจัง และได้ตระเวนออกเล่นตามงานต่างๆอีกครั้ง จนเริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างดี ในแวดวง Underground

ซึ่งต่อมาทางวง ได้มือ guitar ซึ่งก็คือ ชาย (rhythm guitar) มาช่วยเพิ่มพลังทำให้ วงมีภาคริมทึ่มที่แข็งแรงมากขึ้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และ Imaginary lie ได้เริ่มทำเพลงของตัวเอง ช่วงปลายปีพ.ศ.2550 วง Imaginary lie มีโอกาสได้เซ็นสัญญากับ GENIE RECORDS ในเครือของ GMM GRAMMY โดยการชักชวนของ
พูลศักดิ์ จตุระบุล (อ๊อฟ – BIG ASS) เป็น PRODUCER ให้ และได้ ขจรเดช พรมรักษา (กบ – BIG ASS) มาร่วม ในฐานะ Lyrics Producer

วง Imaginary lie นั้นถือเป็น วงดนตรีน้องใหม่วงที่ 3 ของ Mango Team นับจาก BIG ASS และ Bodyslam ต่อมาทาง วง Imaginary lie ได้เริ่มปรับเปลี่ยนแนวทางดนตรี ของวงให้ลงตัวยิ่งขึ้น และเปลี่ยนชื่อวงเป็น NO MORE TEAR

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น